ตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่กำหนดวิธีการบรรจุผลิตภัณฑ์ความงามและนำเสนอต่อผู้บริโภคเพียงดูผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แสดงอยู่ในตลาดด้านการจัดหาความงามเช่น BeautySourcing.com รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซเช่นอาลีบาบา
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะเห็นแนวโน้มสำคัญหลายประการที่จะมีผลกระทบสำคัญต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางในบทความนี้ เราจะมาดูแนวโน้มที่กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
1. ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น
หนึ่งในแนวโน้มที่ใหญ่ที่สุดที่กำหนดอนาคตของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางคือการก้าวไปสู่ความยั่งยืนเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการซื้อมากขึ้น พวกเขาต้องการตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและรีไซเคิลได้บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง.แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มมุ่งเน้นไปที่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ง่ายต่อการรีไซเคิล และใช้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ปัจจุบันพวกเขาเริ่มใช้วัสดุ เช่น ไม้ไผ่ กระดาษ และวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพอื่นๆ ในบรรจุภัณฑ์สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ในตลาดอีกด้วย
2. การเพิ่มขึ้นของความเรียบง่าย
แนวโน้มอีกประการหนึ่งที่มีแนวโน้มที่จะกำหนดรูปแบบตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการออกแบบที่เรียบง่ายผู้บริโภคกำลังมองหาบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย ไม่เกะกะ ซึ่งง่ายต่อการเข้าใจและใช้งานมากขึ้น
แบรนด์ต่าง ๆ ตอบสนองต่อเทรนด์นี้ด้วยการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ทันสมัย และอ่านง่ายสิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มการใช้ตัวอักษรที่ดูสะอาดตา สไตล์มินิมอล และชุดสีเรียบง่ายในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ จำนวนมากขึ้นเลือกใช้แนวทาง "น้อยแต่มาก" โดยที่บรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่เรียบง่ายเท่านั้น แต่ยังทำให้ดูสวยงามและสวยงามอีกด้วยด้วยวิธีนี้จึงสามารถโดดเด่นในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านได้
3. การใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ด้วยการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซและโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หันมาใช้ช่องทางดิจิทัลในการค้นคว้าและซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงาม.สิ่งนี้นำไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เช่น Augmented Reality และการทดลองเสมือนจริงในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น รหัส QR และแท็ก NFC เพื่อสร้างบรรจุภัณฑ์แบบโต้ตอบที่สามารถให้ข้อมูลและประสบการณ์เพิ่มเติมแก่ผู้บริโภคได้การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นดิจิทัลนี้ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์เชิงโต้ตอบให้กับลูกค้ามากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถรวบรวมข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความชอบและพฤติกรรมของลูกค้าได้มากขึ้น
4. การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
การเพิ่มขึ้นของความเป็นส่วนตัวเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่จะกำหนดอนาคตของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางเนื่องจากผู้บริโภคเริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการและความชอบส่วนบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มเสนอตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการมากขึ้น
สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มการใช้การพิมพ์ดิจิทัลและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดายการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและมีคุณค่า แต่ยังช่วยในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์อีกด้วย
5. บรรจุภัณฑ์สุญญากาศ
เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์แบบไม่ใช้สุญญากาศเป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่ใช้สุญญากาศในการจ่ายผลิตภัณฑ์ แทนที่จะใช้ปั๊มหรือหยดแบบเดิมๆบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้สามารถช่วยได้ลดปริมาณสินค้าที่เสียไปเนื่องจากระบบสุญญากาศช่วยให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดสามารถใช้งานได้ก่อนจำเป็นต้องเปลี่ยนนอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบไม่ใช้สุญญากาศยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากไม่ได้สัมผัสกับอากาศ ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป
5. ภาชนะรีฟิล
บรรจุภัณฑ์แบบรีฟิลถือเป็นอีกเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางภาชนะประเภทนี้สามารถเติมได้หลายครั้ง ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นได้
ภาชนะรีฟิลอีกทั้งยังสามารถประหยัดต้นทุนให้กับผู้บริโภคได้ในระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการซื้อแบบรีฟิลแทนการซื้อคอนเทนเนอร์ใหม่ทุกครั้งที่สินค้าหมดนอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบรีฟิลยังเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับแบรนด์ต่างๆ เนื่องจากสามารถลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่ใช้และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจแบบวงกลมมากขึ้น
เวลาโพสต์: 15 มี.ค.-2023